วารสารวิชาการ

Vol 14, No 2 (2018): พฤษภาคม-สิงหาคม 2561

วารสารวิชาการ ปี 2018, ปีที่ตีพิมพ์ 2018


หลักเกณฑ์การปรับระดับศักยภาพหน่วยบริการสุขภาพในมุมมองผู้ปฏิบัติงาน

Abstract

 

          การวิจัยเชิงปฏิบัติการครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาหลักเกณฑ์การปรับระดับศักยภาพของหน่วยบริการสุขภาพ ประชากรที่ใช้ในการศึกษา คือ หน่วยบริการสุขภาพ ชมรมโรงพยาบาลศูนย์ ชมรมโรงพยาบาลทั่วไป และชมรมโรงพยาบาลชุมชน ผู้ให้ข้อมูลหลักได้มาจากการเลือกแบบเฉพาะเจาะจง จำนวน 35 คน ระยะเวลาในการศึกษาระหว่างเดือน มีนาคม 2559 – 30 ธันวาคม 2560 เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาเป็นแบบสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้างและการประชุมระดมสมอง (Focus group) ผลการศึกษาพบว่า

          การปรับระดับศักยภาพโรงพยาบาลทั่วไป (ระดับ S) เป็นโรงพยาบาลศูนย์ (ระดับ A) ควรใช้หลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้ 1) เป็นนโยบายหรือเป็นยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบบริการในเขตสุขภาพ 2) เน้นเรื่องการพัฒนาวิชาการศูนย์ความเชี่ยวชาญ 3) ต้องมีศักยภาพเป็นศูนย์ความเชี่ยวชาญระดับ 1 อย่างน้อย 2 ด้าน 4) เสนอให้มีการประเมินความคุ้มค่าก่อนปรับระดับ

          การปรับระดับศักยภาพโรงพยาบาลชุมชนเป็นโรงพยาบาลทั่วไปมี 2 รูปแบบ คือ โรงพยาบาลทั่วไป (ระดับM 1 หรือ ระดับ S) การปรับระดับโรงพยาบาลชุมชนแม่ข่าย (ระดับ M2) เป็นโรงพยาบาลทั่วไป (ระดับ M1 หรือ ระดับ S) ควรใช้หลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้ 1) จำนวนผู้ป่วยนอก 2) จำนวนผู้ป่วยใน 3) สถานะการเงินของโรงพยาบาล 4) เกณฑ์วัดศักยภาพผู้ป่วยใน (CMI)

          การปรับระดับศักยภาพโรงพยาบาลชุมชน (ระดับ F1) เป็นโรงพยาบาลชุมชนแม่ข่าย (ระดับ M2) ควรใช้หลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้ 1) หลักเกณฑ์ประชากร 2) ประชากรรับส่งต่อ 3) จำนวนผู้ป่วยนอก 4) ผู้ป่วยใน 5) ผ่าตัดคลอด ควรระบุให้ชัดเจน 6) ควรประเมินความเสี่ยงการเงิน (Risk score) ไม่เกินระดับ 3 และ 7) มีเกณฑ์ประเมินศักยภาพของโรงพยาบาล เช่น CMI, SumAdj RW, เตียงActive bed

          การปรับระดับศักยภาพโรงพยาบาลชุมชนขนาดเล็ก (ระดับ F3) เป็นโรงพยาบาลชุมชน (ระดับ F2) ควรใช้หลักความต้องการพื้นฐาน ขึ้นกับความแตกต่างของบริบทพื้นที่ เช่น สถานที่ตั้ง/ขนาดที่ดิน ระยะห่าง รวมทั้งมีเกณฑ์ประเมินศักยภาพของโรงพยาบาล เช่น CMI, SumAdj RW, เตียง Active bed การนำผลวิจัยไปใช้ประโยชน์ หน่วยบริการสุขภาพในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขทุกแห่ง สามารถนำผลการวิจัย “หลักเกณฑ์การปรับระดับศักยภาพหน่วยบริการสุขภาพในมุมมองผู้ปฏิบัติงาน” ไปใช้ประเมินความพร้อม วิเคราะห์ส่วนขาดการปรับระดับศักยภาพของหน่วยบริการสุขภาพ

          The objective of this practical research is to study criteria for Potential improvement of Health service. The sample population consists of 35 citizens, specifically selected from Health service, Primary care, Secondary care, and Tertiary care center during March, 2016 to December 30, 2017. Structural Interview and Focus group are used as Study tools. As a result, it is shown that

          - An upgraded criteria from Primary care (Level S) to Tertiary care (Level A) should be constructed as followed;

          1) Policy or Strategy used for Service system improvement in Area Health

          2) Emphasizing on an improvement of experts and Academic center

          3) Being the Potential leader (Level 1) of Expert center at least 2 areas

          4) Proposing for value assessment before upgrade

          - There are 2 ways to upgrade criteria from Primary care (Level S) to Secondary care that are Level M1 or Level S. In order to upgrade Community Hospital (Level M2) to Secondary Care (Level M1 or Level S), it should refer to following procedure;

          1) Number of OPD (Out-Patient-Department)

          2) Number of IPD (In-Patient-Department)

          3) Financial condition of the Hospital

          4) Potential criteria of IPD (CMI)

          - An upgraded criteria from Primary Care (Level F1) to Community Hospital (Level M2) should refer to following procedure;

          1) Population standard

          2) Population Transfer

          3) Number of OPD

          4) Number of IPD

          5) Cesarean section should be clearly identified

          6) Risk score for Financial risk, no more than Level 3

          7) Potential assessment for Hospital such as CMI, SumAdj RW, and Active Bed

          An upgraded criteria from Small Primary Care (Level F3) to Primary Care (Level F2) should refer to Basic needs depending on Area and Environmental difference such as Location/Area size and Distance, including Potential assessment for Hospital such as CMI, SumAdj RW, and Active Bed

          For implementation, Every Level of Health service under Office of the Permanent Secretary can apply this criteria resulting from “Practical Criteria for Potential upgrade of Health Service” in order to assess the readiness or to analyze the lacking factors that’s obscure the upgraded Potential.

 

References

 

Health Administration. (2017). Division. Operations and Service Plan 2560-2564. The Publisher of Thailand Agricultural Cooperative.

Hong-aumpai, P. (1992) The factor analysis of Health-Care Service’s budget allocation: A Case Study of the Office of the Permanence Secretary Ministry of Public Health. Master of Economic Thesis, Chulalongkorn University.

Na Ranong, V. and Committee. (2002). Follow up and Project Assessment “30 Baht Health care scheme. Ministry of Public Health. Thailand Development Research Institute (TDRI).

Pattamasiriwatt, D. and Committee. (2007). Potential Budget Management for Health Service, Case study of Secondary and Tertiary care 95 units under Office of the Permanent Secretary. Journal of Economic Publish, Thammasart University. 25(4).

Saensantier, K. and Jangkloi, U. (2016). Cost and budget analysis of health-care right for Community Hospital in Nakhonratchasima. Province the Management Journal, 11(1).

Sararatch A., Hanucharoenkul S., and Vittayasuppakorn J. (1999). The study on Potential of Hospital Center and Specialized Hospital in order to be a training center for several Medical Branch. Thai Journal of Nursing, 14(1).

Strategy and Planning Division. (2016). Thailand Public Health 2011-2015. Bangkok: The Publisher of Thailand Under Royal Patronage of His Majesty the King.

วันที่โพส วันที่ 2 กันยายน 2562 เวลา 15.52 น. , อ่าน 281 , โพสโดย กลุ่มแผนงาน





Full Text | ดาวน์โหลด 201 ครั้ง